Skip to content
Menu
แค่อยากจะบอก แค่อยากจะเล่า เรื่องราวของการเดินทาง
  • Home
  • Travel Story
    • International
      • Asia
        • Georgia
        • India
        • Indonesia
        • Malaysia
        • Philippines
        • Singapore
        • Taiwan
        • Vietnam
      • Europe
        • Georgia
        • Iceland
        • Turkey
      • Oceania & Australia
        • Australia
        • Papua New Guinea
      • South America
        • Colombia
        • Peru
    • Thailand
    • The Article
  • Stay Here
    • International
      • Asia
        • Georgia
        • Philippines
        • Taiwan
      • Europe
        • Georgia
      • South America
    • Thailand
  • Enjoy Eating
    • Buffet
    • Cafe & Restaurent
    • Local Food
  • Others
    • Guideline & How To
      • International
      • Thailand
    • Airlines Review
    • Product Review
    • How to get a VISA
  • Here i am
    • Portfolio
    • Contact
    • I am gardener
แค่อยากจะบอก แค่อยากจะเล่า เรื่องราวของการเดินทาง

ปาปัวนิวกินี ครั้งเดียวพอ ประเทศนี้เป็นยังไงต้องลองไปถึงจะรู้

Posted on 12/11/201901/10/2021

ปาปัวนิวกินี ..หลายคนพอได้ยินชื่อประเทศนี้ ก็อาจจะงงๆ และเกิดคำถาม
ประเทศไรวะ?? อยู่ส่วนไหนของโลก?? ไปทำไม?? มีอะไรให้เที่ยว??
อย่าว่าแต่พวกเธองงเลย เพราะเราก็งงเหมือนกัน

ปาปัวนิวกินี เป็นประเทศแรกที่ไปแล้วเกิดคำถาม “กูมาทำไมวะ”
ประเทศนี้เป็นแหล่งเพาะเชื้อมาลาเรียชั้นดี ชนเผ่ากินคนก็ยังคงมีอยู่
จะไปต่างเมืองต้องบินอย่างเดียว ถนนตัดผ่านไม่ครอบคลุม
เพราะบางที่ยังเจรจากับชนเผ่าไม่ได้ เจ้าที่ไม่ยอมให้ผ่าน

ปาปัวนิวกินี

ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จักกับประเทศนี้คร่าวๆ 

ประเทศปาปัวนิวกินี สรุป 15 ข้อ หลังจากที่ได้ไปสัมผัสกับที่นี่
คลิกที่ภาพได้เลย

ทริปนี้เราไปที่ไหนบ้าง..

สำหรับการเดินทางครั้งนี้เราเที่ยวกัน 2 เมืองแค่นั้นแหละ คือ Rabual และ Port Moreby
>> ถามว่าแต่ละเมืองมันมีที่เที่ยวเยอะหรอ..หึ!! เปล่าเลย ค่าทัวร์มันแพงถึงแพงมาก ปาปัวนิวกินี 9 วัน รวมแล้วจ่ายไปพอๆ กับ อเมริกาใต้ 14 วันเลยจร้าาา

Rabaul ธรรมชาติสวยดิบสมบูรณ์มากๆ เราไปเดินเล่นภูเขาไฟที่ยัง Active อยู่ มีชื่อเกร๋ๆ ว่า Tavurvur Volcano แล้วก็ไปนอน Homestay กับชนพื้นเมือง บนเกาะ Mioko คนที่นี่น่ารัก ยิ้มแย้ม (ดู)เป็นมิตร ชอบการถ่ายรูป เห็นกล้องแล้วยิ้มใส่ทันที

Port Moresby เป็นเมืองที่แบบ เอิ่ม..ไงดีหละ ใช้คำว่ายังไม่ค่อยเจริญน่าจะเหมาะ มีห้างประจำเมืองอยู่ 1 ห้าง ถ้าให้เทียบกับบ้านเรา โลตัส บิ๊กซี ยังดูมีอะไรมากกว่า แล้วแบบคนจีนเยอะมาก

ปาปัวนิวกินี-2

การตัดสินใจ

วี๊ว่อ วี๊ว่อ..ตั๋วโปรฯ มาแว้ววววววว
ตั๋วราคาโปรก็คงไม่ต่างอะไรกับรถติดไซเรน จะเอายังไงต้องรีบเร่งในการตัดสินใจ
เมื่อรถติดไซเรนสังกัดประเทศปาปัวนิวกินี แล่นผ่านมา มองซ้าย มองขวา ไม่ทันไร
วีซ่าก็มาอยู่ในมือเรียบร้อยแล้วจ้าาาา

หลังจากจองตั๋วเรียบร้อย..ก็พากันไปทำวีซ่า ถึงจะมีวีซ่าแบบ VOA แต่แนะนำว่าทำจากไทยไปเลยดีกว่า
ค่าวีซ่าคนละ 3 พันบาท วีซ่าที่นี่ยังเป็นระบบแมนนวลอยู่นาจา พี่เจ้าหน้าที่น่ารักมากกกกกกก

ปล.เนื่องจากที่นี่แทบไม่มีรีวิวเลย เราเลยโทรไปถามนู่นถามนี่ พี่เจ้าหน้าที่ (คนไทย) ที่สถานกงศุลปาปัวนิวกินีบ่อยมากๆ โทรไปคุยขอคำปรึกษาครั้งละประมาณครึ่งชั่วโมง จนคุ้นเคยกันเลยอะ

จำได้เลย..คำถามแรกที่เราถามเค้า คือ มีคนไทยไปขอวีเที่ยวเยอะป่าวคะ จนท.ตอบว่า..เพิ่งมีเราเจ้าแรกของปีนี้แหละที่โทรมาถาม 555

หลังจากทำวีซ่าเรียบร้อย..ก็ชวนกันไปฉีดวัคซีน และรับยาที่ช่อง 3 อย่างที่บอก..ว่าประเทศนี้เป็นแหล่งแพร่เชื้อมาลาเรียชั้นดี ก่อนเดินทางเราก็เลยพากันไป Travel Clinic ไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็แนะนำให้ฉีดวัคซีน (จำวัคซีนไม่ได้แล้ว) และก็สั่งยา Anti มาลาเรีย ให้ไปกินกัน

**อันนี้สำคัญนะ!! เวลาจะเดินทางไปประเทศที่เสี่ยง (ต่อโรค) ก่อนเดินทางเราจะไปปรึกษาแพทย์ที่ Travel Clinic เสมอ คือตอนนี้ในตัวมีวัคซีนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอยู่หลายชนิดเลยจ้า สะสมไว้ตั้งแต่ก่อนไปอเมริกาใต้

อ้อ!! ประกันเดินทางก็เป็นเรื่องสำคัญนะ เราใช้แบบรายปี ของ MSIG

ปาปัวนิวินี-3

เริ่มต้น..การเดินทาง

เรียน..ท่านผู้โดยสาร เที่ยวบินนี้ยังไม่สามารถพาท่านไปสู่ปลายทางที่ประเทศปาปัวนิกีได้ เนื่องจากที่นี่ไม่มีเที่ยวบินตรงจากไทย เราเลยจำเป็นต้องพาท่านไปแวะต่อเครื่องที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ก่อนเด้อจ้า

โปรดรัดเข็มขัดที่นั่งให้เรียบร้อย เพราะเรากำลังพาท่านออกเดิน บึ๋นๆๆๆๆๆๆๆ
ตุ๊บแรก : กรุงเทพ > มะนิลา ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
ตุ๊บสอง : มะนิลา > พอร์ต มอสบี ใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง
ตัดภาพไปที่ปาปัวนิวกินีเลยแล้วกัน

สนามบินกลิ่นตัว

ถึงแล้วๆ ปาปัวนิวกินี มาถึงก็มึนกันเลยจ้า มึนว่านั่นหมายถึงมึนกลิ่นนะ เพราะสนามบินที่นี่มีกลิ่นสุดอัศจรรย์ที่คละคลุ้งไปทั่วทั้งอาคารสนามบิน คือแบบ โอ มาย ก๊อด พระเจ้าขา..ส่งยาดมมาให้หนูที เล่าไปอาจจะนึกภาพไม่ออก อัดเป็นคลิปมาให้ชมเลยจ้า ..เสียดายคลิปมันใส่กลิ่นลงไปไม่ได้ อยากให้ทุกคนได้สัมผัส กลิ่นรัญจวนชวนคลื่นไส้นั้นไปพร้อมๆ กัน

แต่เรื่องชวนให้ยิ้มก็มีนะ เพราะความแมนนวลของสนามบินที่นี่น่ารักมากๆ ตารางการบินเขียนด้วยมือจ้า

สนามบิน ปาปัวนิวกินี

ในที่สุดเราทุกคนก็รอดพ้นจากกลิ่นรัญจวนนั้นมาได้อย่างปลอดภัย เพราะต้องบินไปที่เมือง Rabual เมืองที่เราจะฝังตัวอยู่ที่นั่นกันถึง 5 วัน 4 คืน

Rabual เมืองหลักในการเดินทาง

“สวัสดีค่ะ เมืองลาบาวยินดีต้อนรับ ขอให้ทุกท่านสนุกกับการมาเยือนเมืองนี้นะคะ”
นี่คือเสียงจากพนักงานต้อนรับประจำท่าอากาศยาน (ในจินตนาการของเรา)

อาการมึน(กลิ่น) จากสนามบินที่ Port Moresby ยังไม่ทันหายดี ก็ต้องมามึนกันต่อกับแผนที่ผิดพลาดเมื่อมาถึงเมือง Rabual

คือก่อนหน้านี้เราได้ติดต่อกับโรงแรมให้ส่งรถมารับเราเรียบร้อยแล้ว ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ๆๆๆ แม่สายบัวก็รอเก้อ เพราะไม่มีใครมารับเรา ไม่มี๊ ไม่มี ไม่มีเลยจริง ๆ

ปาปัวนิวกินี-4

เอายังดีหละทีนี้ เริ่มรู้สึกเฟ้งฟ้าง โทสับก็โทรออกไม่ได้ เมลล์ไปตาม โรงแรมก็ไม่ตอบสักที ยืนมึนอยู่สักพัก ก็นึกขึ้นได้ว่า.. “ฉันต้องทำ ทำอะไรสักอย่างแล้ว”

ก็เลยเดินไปหา จนท.สายการบิน และเจ๊คนนี้ก็ให้ความช่วยเหลือเราเป็นอย่างดี ถามคนโน่นคนนี้ให้ จนในที่สุดเราก็ไปถึงโรงแรมที่จองเอาไว้ล่วงหน้าอย่างปลอดภัย

แถมมาด้วยแนะนำทัวร์ให้เราเสร็จสรรพ คือทริปนี้มาแบบไม่ได้จองทัวร์ล่วงหน้า กะไปหาเอาข้างหน้าล้วนๆ โคตรเสี่ยงอะ 5555 (ไม่ควรลอกเลียนแบบ เพราะทุกการเดินทามีความเสี่ยง โดยเฉพาะกับประเทศที่ย่ังไม่เป็นที่นิยมในด้านการท่องเที่ยว) ซึ่งทัวร์เจ้าที่เจ๊แนะนำเจ้าของก็คือ ผ. เจ๊นั่นแหละค๊า มิน่าหละเจ๊เชียร์จังเลย

ทัวร์ของ ผ. เจ๊ เป็น Local Tour นะ ชื่อว่า Madapai Tours Rabual ชาวบ้านทำกันเอง ไม่ได้ผ่านเอเจ้นท์ใดๆ ถ้าดิวผ่านเอเจ้นราคาต้องสูงกว่านี้แน่ๆ

โปรแกรมทัวร์ที่เราเลือก (ตอนแรก) ก็คือ Hiking ยามเช้าที่ภูเขาไฟ Tavurvur นอนโฮมสเตย์บนเกาะ Mioko 2 คืน (รวมอาหาร / เดินชมหมู่บ้าน / Tradition Dancing / ดำน้ำแบบ Snorkeling) ราคาทัวร์ตกคนละประมาณ หมื่นกลางๆ ซึ่งพวกเราคิดว่าแพงงงงงงงงงงงงงง

Tavurvur Volcano ภูเขาไฟที่ยังมีชีวิต

Rabual Vaolcano

มาค่ะ..ไปเดินไต่ภูเขาไฟที่ยัง ปุดๆๆๆ เล่นกัน ใครที่อยากมา Hiking ที่นี่ต้องมากันแต่เช้ามากๆ แดดได้ไม่ร้อน เพราะที่นี่ไม่มีร่มเงาอะไรเลย ถ้าเดินตอนแดดส่องต้องไหม้กันแน่ๆ ต้องไหม้เกรียมเหมือนไก่ที่อีแก้วปิ้งแน่ๆ

เพื่อความสมจริงของการเล่า โปรดคลิกเข้าไปดูคลิป แล้วกลับมาอ่านต่อ

Tavurvur Volcano

ภูเขาไฟที่นี่เดินไม่ยากเท่าไหร่นะ เหมือนเดินเล่นในสวนหลังบ้าน ง้อววววววววว ทำเป็นพูดดีไป
เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องเก็บอาการไว้ เมื่อเจอกล้อง เอ้าาา!! ยิ้ม

ภูเขาไฟ Tavurvur
ภูเขาไฟ Tavurvur

บางช่วงคือทางชันมากๆ ชันแบบก่อนขึ้นต้องหยุดยืนงง ว่า..กูจะเดินขึ้นได้จริงๆ หรอ.. แต่แล้วก็ค่อยๆ ก้าวขึ้นไปทีละก้าวๆ อย่างมุ่งมั่น เอ้อออ..ก็ไม่ได้ยากนี่หว่า

ภูเขาไฟ Papua New Guinea

สุดท้ายก็ขึ้นไปยืนยิ้มบนยอดอย่างภาคภูมิ กลับไปโม้ได้ยันเหลนบวช Tavurvur Volcano หนะหรอ จิ๊บๆ ข้านี้ไปพิชิตมาแล้ว โว๊ะ โฮะ โฮะ (หัวเราะอย่างผู้ชนะ) พร้อมกับสะบัดผมใส่ 1 ที โอ้ลัลล้า

ปาปัวนิวกินี-6

ลูกทัวร์มีแค่ 3 อีก ส่วนอีก 5 คือคนที่มาคอย Take Care สวยสุดบนเขา เพราะว่าเราคือหญิงเดียว 555555

png

เหนื่อยแค่ไหนไม่สำคัญ ภาพถ่ายนั้นต้องได้กลับมา

PNG-1

ลงมาถึงพื้นหน้าชื่นตาบาน ภูมิทัศน์ที่นี่ สวยแปลกตาดีแท้

เมืองลาบาว

ขากลับลงมามีชาวบ้านเอาของที่ระลึกมาวางขายด้วย มาขายของกันเป็น 10 แต่มีคนซื้ออยู่แค่ 3 คน 55555

ปาปัวนิวกินี-8

ออกจากภูเขาไฟ ก็ไปลองกินอาหารท้องถิ่นกัน อาหารหน้าตาแบบนั้นเค้าเรียกกันว่า โตโตกรอ เอาปลาเอาผักมาปรุงกับมะพร้าว รสชาติอร่อยดีอะ ห่อละประมาณ 50 บาท

อาหารท้องถิ่น PNG

Mioko Isnand โคตรเรียล

เลส สะ โก ทู ไอซ์ แลนด์… ไปนอนโฮมสเตย์กับชนพื้นเทืองที่เกาะมิโอโกะกัน
ใช้เวลานั่งเรือลำเล็กที่ต้องการออกจากฝั่งไปประมาณ 45 นาที ก็ถึงที่หมาย แง๊นๆๆๆ
Mioko Island

ทะเลระหว่างทางคือสวยมากกกกก เทอร์ควอยซ์สุดอะ แล้วก็มีชาวปาปัวแจวเรือมาหาปลา คือชอบอะไรแบบนี้มากๆ เรียลได้ใจจริงๆ

ปาปัวนิวกินี-10
นี่คือเกาะเล็กเกาะน้อยที่อยู่ระหว่างทาง บ้านนี้ทำเลทองมาก คือทะเลที่ปาปัวสุดมากจริงๆ
ปาปัวนิวกินี-20

ในขณะที่เรือกำลังแล่นเข้าฝั่ง ก็มีบรรดาเด็กน้อยชาวเกาะที่กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ทักทายคนแปลกหน้าที่มาเยือนด้วยการโบกมือ เซย์ฮัลโหลกันไปตามภาษา เป๋นการต้อนรับที่รู้สึกอบอุ่นดีจริงๆ

เด็กปาปัวนิวกินี
เห็นอะไรในภาพนี้…เงาดำๆ นั่นคือบรรดาเด็กน้อย ที่กำลังสนุกสนานกับการเล่นน้ำทะเลอยู่ 555555 น่าร๊ากกกก
ปาปัวเด็กน้อย
ขึ้นจากเรือแล้ว..ก็เดินเท้ากันไปอีกจิ๊ดนึง
ถึงแล้วโฮมเสตย์ที่เราจะมาฝากปากท้อง ฝากชีวิตไว้กัน 3 วัน 2 วัน
ปาปัวนิวกินี 28
ที่พักที่นี่ ถึงจะมีที่นอน หมอน มุ้ง ให้พร้อม แต่ แต่ แต่!!!!!! ไม่มีไฟฟ้า ไม่สัญญาณ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ เลย ผ่างง
ปาปัวนิวกินี-28
เอาๆๆ ไหนๆ ก็ติดสินใจลงเรือมาถึงนี่แล้วนิ อย่ามัวไปเสียเวลานั่งอาลัยอาวรณ์นึกถึงความสบายและสัญญาณเนตกันอยู่เลย ออกเดินเล่นรอบหมู่บ้านบนเกาะนี้ สัมผัสวิถีชีวิตของชนพื้นเมืองที่นี่กันดีกว่า
เป็นคลิปก็มีน๊าา

น้องจ๋า…พี่ขอนั่งบนเรือด้วยได้อ๊ะป่าว..แล้วนั่นก็เป็นที่มาของภาพนี้

ปาปัวนิวกินี-25
ตึกรามบ้านช่องบนเกาะนี้ก็ประมาณนี้แหละ ของเล่นของเด็กๆ ก็ทำมาจากภูมิปัญหาบรรพบุรุษ DIY จากวัสดุท้องถิ่น เด็กน้อยที่นี่ไม่มีเลยนะ  ที่จะมานั่งดู Youtube จดจ้องหน้าจอเล่นเกมส์ในมือถือ เพราะส่วนใหญ่เค้ายังใช้มือถือแบบเป็นตุ่มกด กันอยู่เลย โคตรเรียลมาอะ สำหรับวิถีชีวิตความเป็นอยู่
ปาปัวนิวกินี-a
ที่นี่เด็กน้อยเยอะมากๆๆๆๆ น่ารัก ยิ้มแย้ม เป็นมิตร และก็ชอบถ่ายรูปกันทุกคนเลย
ปาปัวนิวกินี-b
คือตอนแรกก็สงสัยนะว่าทำไมเด็กที่นี่เยอะจัง แต่พอได้ไปค้างคืนบนที่นั่นมา 1 คืน จาก เอ๊ะ ก็กลายเป็น อ๋อ เลยจ้า คือเกาะที่นี่มันไม่มีไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ เลยไง จะทำอะไรก็คงไม่สะดวก ที่ ..สะดวก..ก็น่าจะเป็น..สะกิด.. เธอๆๆ ทำลูกกันเถอะ คิดเอาไว้ว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ ที่เด็กเยอะต้องมาจากสาเหตุนี้แน่
ปาปัวนิวกินี-c
แสงและเงามันได้ อ้อ!! สังเกตุกันป่าว ทุกคนที่นี่จะเจ็บหัวอยู่ตลอดเวลา เพราะผมหยิก ผ่ามผ๊ามม!! ขำมะ ขำหน่อยเถอะ
ปาปัวนิวกินี-d
ไปประกวดเป็นนางแบบเถอะน้องเอ้ย ฟิลลิ่งมันได้เลยเนี่ย
ปาปัวนิวกินี-30
1 2 3 ปาปัวนิวกินี (ยิ้ม) ชอบถ่ายรูปกันจริงๆ เล้ย 🙂
ปาปัวนิวกินี-31

รักน้ำ รักปลา รักทะเลที่ปาปัวนิวกินี

หลังจากเข้านอนตามวิถีของชนพื้นเมืองที่นี่ แบบที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ มาแบบนี้นานๆ ครั้ง มันก็โอเคดีนะ ได้คุยกับคนตรงหน้ามากขึ้น ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ไม่งั้นก็คงก้มหน้าก้มตาจิ้มโทสับของตัวเองกันเหมือนทุกๆ คืนที่ผ่านมา

เช้าวันรุ่งขึ้น..ก็แปลงร่างเป็น Mermaid ออกเรือไปสะบัดตีนกบสวยๆ อยู่ใต้ทะเล

ปาปัวนิวกินี-32

ดูสีน้ำทะเลที่นี่ดิ เทอควอยซ์มาก ใสเวอร์วังอลังการ
ปาปัวนิวกินี-33
มาดูใต้น้ำที่นี่บ้างนะ คือตอนเห็นสีน้ำทะเล ว้าวมากๆ แต่พอมุดบุ๊งๆๆ ลงไปดูใต้น้ำ คิดว่าปะการังบ้านเราในหลายๆ จุด สวยกว่าที่นี่ หรืออาจเป็นเพราะเป็นปะการังแข็งด้วยละมั้ง เลยไม่มีสีสันเท่า Soft Coral แต่ต้นมันก็ยิ่งใหญ่อยู่น๊าาา
ปาปัสนิวกินี-34

เล่าต่อๆ..ไอ้จุดที่เค้าพาเราไปดำน้ำหนะ เค้าบอกว่ามันเป็นบ้านของพะยูน มีเยอะเลย แต่ตอนนี้มันไม่อยู่นะ มันจะว่ายกลับมาตอนเย็นๆ เอิ่มมม!!! งั้นไม่ต้องเล่าก็ได้มั้ง คือ ครั้งนึงในชีวิตเราอยากว่ายน้ำเล่นกับพะยูนไง แบบนี้ไม่รู้ยังดีซะกว่า

ปาปัวนิวกินี-35

แท๊ม แม๊ม แท๊ม แท่ม…ไม่เจอพะยูน เจอโลมาก็ยังดี ได้รู้สึกคุ้มค่ากับราคาค่าดำน้ำหน่อย เป็นการดำน้ำตื้นที่แพงมากกกกก 2 คน หมดไปประมาณ 6 พันบาท ในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง แล้วนั่งเรืออกจากฝั่งไปประมาณ 5 นาทีเองอะ

ปาปัวนิวกินี-36

ไม่อยู่แล้วจ้า เผ่นดีกว่า.. สรุปว่าเราทนกับสภาพไร้ไฟฟ้า ไร้โซเชียล บนเกาะนี้ได้เพียงคืนเดียวเท่านั้น (จากที่ตกลงกันไว้ว่า 2 คืน) คือ จำเป็นต้องใช้โทสับติดต่องานอย่างสูงไง ก่อนไปหัวหน้าบอกว่าให้ลาไปเที่ยวนานๆ ได้ แต่งานก็ห้ามเสีย เป็นไง!! ดูดีมั๊ยหละ ง้อววววววว

และมีอีกหนึ่งสาเหตุที่เราต้องรีบกลับ เพราะสมาชิก 1 ในคณะทัวร์ลูกเป็ดของเรา โรคเก๊ากำเริบ ขาบวมฉิ่งเลยจ้า ขึ้นฝั่งได้ก็ตรงดิ่งไปหาหมอซื้อยา

โปรดโฟกัสที่สีน้ำทะเล อย่ามาโฟกัสที่หน้าเรานะ บูบี้มาจากดำน้ำ ภาพนี้ไม่ได้ปรับแต่งสีเลยนะ เป็นสีจริงจากหลังกล้องเลย

ปาปัวนิวกินี-37

ตลาดประจำเมือง

วันต่อมา..นับว่าเป็นวันพักผ่อน เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่โรงแรม แล้วก็ออกไปเดินตลาด ให้ 1 ในคณะทัวร์ลูกเป็ดที่ได้รับบาดเจ็บจากอาการเก๊าเอ๊าๆ ได้นอนนิ่งๆ อาการบวมที่ขาจะได้ทุเลาลง

ตลาดนี้ชื่อว่า Kokopo Market เป็นตลาดที่คนที่โน่นเค้าเคลมว่า คือ The Best Of Market ของปาปัวนิวกินีเลยนะจ๊ะ

บริเวณด้านหน้าตลาด

ปาปัวนิวกินี-e

ตลาดที่นี่ตะมีทั้ง Indoor และ Outdoor

ปาปัวนิวกินี-f

ผลไม้ส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆ กับบ้านเราเลย

ปาปัวนิวกินี-g

ตลาดที่นี่่ดูดีม๊ากมาก แบ่งสัดส่วนชัดเจน กลิ่นไม่มี ดูดีกว่าตลาดบ้านเราหลายเท่า สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นตลาดที่ดีที่สุดในปาปัวนิวกินี ไม่ได้ประชดนะ พูดจริงๆ

ปาปัวนิวกินี-i

นี่เป็นโซนที่ขายเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ

ปาปัวนิวกิี-j

อาหารทะเลที่นี่ถูกมากกกกก ปลาหมึกตัวละร้อยเดียวจ้าร้อยเดียว ตัวใหญ่เท่ากระต่าย แต่ซีฟู้ดบ้านเค้าไม่เหมือนที่ขายที่บ้านเราเลย คือแทบไม่มีแบบสดๆ คืออาหารทะเลที่เค้าเอามาขายกันจะต้องผ่านการรมควันมาแล้ว แล้วถามว่าซื้อกินมั๊ย.. ซื้อสิ นี่คืออาหารทะเลที่ใกล้เคียงกับที่เราต้องการมากที่สุด

ปาปัวนิวกินี-41

ปูทะเลพวงละร้อยมี 8 ตัว โคตรถูกเลยจ้า แต่ก็ได้แค่มองแล้วก็อึ้งกับราคา เพราะไม่รู้จะเอาไปทำกินยังไง เฮ้ออออ

ปาัปวนิวกินี-40
ดูแบบเป็นคลิปก็ได้น๊าา อรรถรส
มาๆ มาอ่านกันต่อ

กิเรกิเร้ สัมผัสวิถีชีวิต

เช้าวันต่อมา..เราก็ไปทัวร์หมู่บ้านกัน มีชื่อแสนเกร๋ว่า “กิเรกิเร้” เป็นหมู่บ้านที่คนทำทัวร์ ผ. เจ๊อยู่นั่่นแหละ ไปเรียนรู้วิถีชีวิตของคนที่โน่นกัน (โปรแกรมนี้ให้เค้าทดแทนจากเดิมที่เราจะค้างบนเกาะ 2 คืนให้) คนทำทัวร์บอกว่าเราเป็นคนแปลกหน้า (ต่างชาติ) คณะแรกที่มาเที่ยวหมู่บ้านเค้า และเป็นครั้งแรกที่เค้าจัดโปรแกรมนี้ขึ้นมา อ้าววว!! หนูทดลองนี่หว่า
ปาปัวนิวกินี-42
เหมือนมีบางอย่างกำลังแอบมองเราอยู่ริมรั้วข้างบ้าน

เริ่มจากเรียนรู้วิถีชีวิตแบบเรียลโคตร คือ รายได้คนท้องถิ่น (ผู้หญิง) ที่นี่ ก็มาจากการสานตะกร้า สานกระเป๋าที่ทำจากใบมะพร้าว

ปาปัวนิวกินี-43
รายได้ที่นี่เกิดจากมะพร้าวเป็นหลัก มะพร้าวพวกนี้คือเค้าแกะเนื้อออกมาแล้วเอาไปรมควัน เป็นสินค้าส่งออกเลยนะ
ปาปัวนิวกินี-44

หลังจากการสร้างรายได้ของคนที่นั่นแล้ว เค้าก็จะโชว์ร้องเพลงให้พวกเราฟังด้วย แฮปปี้ๆๆๆ มากจ่ะ เค้าตื้นเต้นกันมากๆๆๆ ที่เราไปเยือนเค้าถึงถิ่น (ชาวต่างชาติคณะแรก 555) เลยแห่มาต้อนรับกันทั้งหมู่บ้าน บรรดาเด็กน้อยต่างก็หยุดเรียนเพื่อการนี้ (นี่พูดจริงๆนะ) รู้สึกผิดไปเลย ที่เด็กน้อยต้องเสียการเรียน 😢

ปาปัวนิวกินี-45

หลังจากโชว์ร้องเพลงจบลง ก็ไปดูแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ ของหมู่บ้านนี้กันต่อ บ่อน้ำ (ขวา) คนญี่ปุ่นเป็นคนสร้างตั้งแต่สมัยสงครามโลก มีตัวอักษรญี่ปุ่นจารึกไว้ด้วย บ่อนี้เป็นบ่อน้ำใช้ ส่วนอีกบ่อคือบ่อน้ำกิน (ซ้าย)

ปาปัวนิวกินี-47

มีที่หลบระเบิดด้วยนะ ถ้ำหลบภัยยามสงครามแห่งนี้ ลึกประมาณ 400 เมตร ตู้มมมมม!! หลบจ้าหลบ

ปาปัวนิวกินี-46
ขาวสุดในอำเภอเลยจ้า 5555 ดูดิเค้าแห่กันมาทั้งหมู่บ้านจริงๆ นะ
ปาปัวนิวกินี-48

เพียงแค่คุณไม่มีเจ้าชาย ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ใช่เจ้าหญิง ง้อวววววว

มื้อกลางวันของเรา ก็เป็นอาหารแบบดั้งเดิมของชาวปาปัวนิวกินีเลย เค้ามาสาธิตวิธีการทำให้เราดูด้วย มันแปลกมากๆ คือเค้าจะเอาหินไปเผาไฟให้ร้อนจัด จากนั้นเอาไปล้างน้ำเพื่อความสะอาด แล้วเอาหินร้อนๆ นั่นไปวางไว้ในหม้อ และก็วางสลับกับไก่กับผักเป็นชั้นๆ พอเต็มหม้อก็เอาฝาปิดแล้ววางตั้งไว้เฉยๆ ไม่ต้องคน ไม่ต้องกวน ไม่ต้องพลิก ประมาณครึ่งชั่วโมง เปิดออกมาคือทุกอย่างสุก สุกแบบพอดีเลยอะ เนี่ยแหละเน๊าะ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ว่าจะลองกลับมาทำกินที่บ้านบ้าง 

กินข้าวเสร็จก็แห่กันไปชมการเต้นประเพณีของชนพื้นเมือง เราสามารถลุกไปแจมกับเค้าได้ด้วยนะ คอสตูมมีให้เสร็จสรรพ การแสดงนี้ถ้ารวมนักดนตรีด้วยก็เยอะพอควร ทุกคนสนุกสนานกับกิจกรรมนี้มาก เสียงดนตรีก็มาจากการตีเกราะเคาะไม้ให้เกิดเป็นถ่วงทำนอง เพลินมากเลยกับการชมโชว์ชุดนี้

Time To Say GOODBYE

ก่อนกลับถ่ายภาพเป็นที่ระทึก

เค้าพาเราไปเที่ยวแม่น้ำ Warangoi ด้วย ที่นี่ไม่ได้มีอะไรให้ตื่นตาเล้ยยย ธรรมดามากๆ

แม่น้ำว่าเฉยแล้ว Lake ที่เค้านำเสนอเห็นแล้วคือโคตรอึ้ง ถ้าเป็นบ้านเรามันก็หนองน้ำดีๆ นี่เอง คือคำว่า Lake ในจินตนาการเรา ภาพมันยิ่งใหญ่สวยงามอลังการมากๆ อะ ส่วนนี่คือ Lake Tavalop ที่เค้านำเหนอ

จากป่าสู่เมืองหลวง Port Moresby

กลับมาที่เมืองหลวง Port Moresby เมืองหลวงที่โคตรจะไม่มีอะไรให้ทำ จะออกไปเที่ยวไหนก็ต้องคอยหวาดระแวงกันอยู่ตลอดเว ลองหาราคาทัวร์มาล่วงหน้า ไปดูชนเผ่าแค่ครึ่งวันต้องจ่ายคนละประมาณหมื่นกว่าบาทจ่ะ

คือระหว่างเดินเที่ยวที่นี่ ก็มีคนคอยเดินเข้ามาถามเราตลอดๆ มากับใคร ทำไมไม่มากับทัวร์ ทำไมไม่มีคนนำเที่ยว ที่นี่มันอันตรายมากนะสำหรับคนต่างชาติ ห่า…กลัวก็เพราะมีคนคอยมาทักตลอดทางนี่แหละ ถามโรงแรมว่าจะไปที่นี่นั่ง VAN สายอะไรไป พนก.รร.บอกว่า ไป Taxi เหอะ นั่งรถสาธารณะไม่ปลอดภัยสำหรับ You

ในภาพนี้คือ Koki Fish Market เป็นตลาดปลาที่สะอาด และอาหารทะเลถูกมากกก แต่ก็ทำได้แค่มองเท่านั้น ปริบๆ

คือถ้าเป็นบ้านเรานะ คงมีร้านอาหารทะเลเปิดอยู่ตรึม แต่ที่นี่ไม่จ่ะ ไม่มีเลย มีแต่ร้านอาหารจีน กับตลาดอาหารทะเลแบบสดๆ เป็นๆ แล้วรอบๆ ตลาดปลา คือไม่มีร้านอาหารใดๆ เลยนะ อะไรคือตรงกลาง อะไรคือความพอดี เราก็ทำได้เพียงแค่มองกันเนี่ยแหละ

เดินเจอกุ้งมังกรตัวใหญ่มากกก ใหญ่เท่าเป๊ปซี่ขวดลิตร ตัวละแค่ 700 บาท แต่ก็ต้องปล่อยผ่านไป เพราะไม่รู้ว่าซื้อมาแล้วจะทำกินกันยังไง กินดิบๆ ก็ใช่เรื่อง 55555

ตลาดนี้ชื่อว่า Boroko Handicrafts Market ยกให้เป็น The Best ในการเดินตลาดสำหรับทริปนี้ของเราเลย เพราะมันเป็นตลาดที่ขายของท้องถิ่น ของพื้นเมือง ของที่ทำด้วยมือ คือเราเป็นคนที่ชอบงานแฮนเมดไง เลยชอบที่นี่มาก แต่ก็เดินกันไปด้วยความวาดระแวง กล้องก็ไม่ค่อยกล้าจะเอาออกมาถ่าย เดินๆ อยู่ก็มีคนมาถาม (อีกแล้ว) ทำไมไม่มีไกด์ ทำไมมากันเอง โอ๊ยยย..อะไรคือความสงบสุขในการเดินเที่ยวที่นี่

อันนี้เค้าขายพวกน้ำผึ้ง ยาสมุนไพรต่างๆ ฟิลลิ่งของภาพมันได้

กระเป๋าถักทำมือที่นี่น่าซื้อมาก แต่ก็ไม่ได้ละเอียดดูดีเหมือนกระเป๋าวายูของโคลอมเบีย แต่ถือเป็นสัญลักษณ์ของปาปัวนิวกินีเลย เพราะเค้าถือกันทั้งบ้านทั้งเมือง ทุกเพศทุกวัยเลยจ้า

อันนี้อะไรใครรู้บ้าง อิอิอิ

สำหรับทริปนี้ก็นับได้ว่า..เป็นทริปเปิดระสบการณ์แปลกใหม่ให้เรามากๆ เพราะมันยังไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไหร่ ว่าที่นี่เป็นแบบไหนยัง ในเมื่อเราอยากรู้ แต่มันไม่มีให้รู้ ก็ต้องลองไปสักครั้งเพื่อให้รู้แหละเน๊าะ

จบแล้วสำหรับทริปปาปัวนิวกินี มันไม่ได้แย่นะ แต่ครั้งแรก ครั้งเดียวพอ หรือถ้าจะต้องไปใหม่ ก็ขอให้มีการแข่งขันทางด้านการท่องเที่ยวสูงกว่านี้ก่อน ราคาจะได้ถูกลง บริการต่างๆ จะได้ประทับใจเรามากขึ้น บายยยยยยยยย

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ

ฝ้ายเอง

ติดตามเรื่องราวการเดินทางอีกมากมายได้ที่
https://www.thetravel2gether.com/

Facebook Comments

comments

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

©2024 แค่อยากจะบอก แค่อยากจะเล่า เรื่องราวของการเดินทาง | Powered by SuperbThemes & WordPress